ครั้นเมื่อบท 007 Spectre โดนแฮ็ค นั่นทำให้หมู่งานต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
โดยภายหลัง จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2557 ที่พ้นมา ทางผู้อำนวยการสร้างหนังภาพยนตร์ 007 เจมส์ บอนด์ ไมเคิล จี วิลสัน พร้อมกับ บาบาร่า บร็อคเคอรี่ นั้นได้ประกาศชื่อตอนของหนัง 007 เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ กับภาคใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า SPECTRE โดยที่มีผู้กำกับหนังจากภาคก่อน แซม แมนเดสมากุมบังเหียนอีกครั้ง กับ แดเนียล เคร็ก ก็ยังคงกลับมารับบทบอนด์เป็นครั้งที่ 4 อีกตามเคย
ซึ่งทางกองถ่ายจักเริ่มต้นต้นขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2557 พร้อมกับจะมีกำหนดเข้าฉาย วันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เพราะที่โปรแกรมหนังเหล่าดารานำที่จักตบเท้าเข้าร่วมแสดงก็ได้แก่
- คริสตอฟ วอลท์
- ลีอา เวย์ดูซ์
- เดฟ บัลทิสต้า
- โมนิก้า เบลลุคซิ
- แอนดรูวส์ สก็อตต์
ปางแต่ ว่าปางไม่กี่วันที่ทะลุทะลวงมาทางโซนี่ก็ต้องกุมขมับครั้งใหญ่ ครั้นเมื่อบทจอเงินของหนังภาคล่าสุดนั้นเกิดรั่วไหลก็เพราะว่าโดนแฮ็คเกอร์นำมาตีแผ่แพร่ต่อ ซึ่งในบทภาพยนตร์นั้นมีการกล่าวถึงจุดสำคัญของเรื่องไม่ว่าจักเป็นฉากหลัง – พร้อมทั้งชื่อตัวละคร นั้นลามไปถึงจุดหักมุมของเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่ง 100 หน้าของบทที่รั่วออกมานั้นเต็มไปด้วยกำแพงแอ็คชั่นพร้อมด้วยพล็อตตัวละครที่เรียกได้ว่าทั้งตัวละครเเล่าลือดเก่ากับใหม่คละเคล้ากันไป
ซึ่งถ้าใครยังไม่ตะกลามรู้จุดรั่วไหลของหนังภาคล่าสุดขอแนะนำว่าให้เลิกอ่านจากจุดนี้ไปครับ
เพราะว่าที่ในภาคนี้บอนด์จักริเริ่มตั้งคำถามถึงอนาคตของตัวเองหลังจากการจากไปของ M ไม่ใช่หรือ จูดี้ เดนท์ ในภาคก่อน ส่วน ลีอา เวย์ดูซ์ นั้นจะมารับบทเป็นลูกสาวของ M คนก่อน ด้าน แอนดรูวส์ สก็อตต์ จักมารับบทศัตรูของ คนใหม่ ราฟท์ ไฟนน์ ส่วนโมนิก้า เบนลุคซิ น่าจักกลายเป็นสาวบอนด์ฝั่งตัวร้ายที่มีเอี่ยวกับฝ่ายก่อการร้าย
กับในตัวบทหนังใหม่นั้นเขียนเพราะ 1.จอห์น โลแกน , 2.นีล เพอร์วิส ด้วยกัน 3.โรเบิร์ต เวด
เช่นแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางสตูดิโอ MGM จึงต้องหาทางแก้ไขเป็นการด่วนพร้อมทั้งอาจจะมีการปรับแก้บางส่วนของหนังใหม่เลยทีเดียว
การ์ตูนเรื่อง Stand by Me: Doraemon จากวันที่เรารู้จักกันจนวันลาจาก
เพราะว่าหลังจากที่ตัวอย่างหนังใหม่ Stand by Me ได้หยิบช่วงเวลาของโดราเอมอน ในโมเมนต์สำคัญโดยจะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงเวลาที่โดราเอมอนได้เดินทางมายังช่วงเวลาของโนบิตะเพื่อช่วยเหเลื่องลือในการเปลี่ยนแปลงอนาคตข้างหน้า
ซึ่งโนบิตะ นั้นจักได้รู้จักกับของวิเศษต่างๆ นา ไปจนถึงโนบิตะจะต้องเดินทางไปยังโลกอนาคตเพื่อช่วยเหฟุ้งเฟื่องโนบิตะในตอนโตพร้อมทั้งช่วยเหลือกระฉ่อน ชิซูกะ ระหว่างตอนี่เธอกำลังลำบาก พร้อมกับช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนนี่โนบิตะจักต้องลาจากจากโดราเอมอนเพื่อกลับโลกอนาคต
กับตัวหนังเรื่อง Stand by Me : Doraemon ซึ่งได้ผู้กำกับหนังชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ยามาซากิ ทาคาชิ ที่มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่องราวสุดกินใจใน Always: Sunset on the Third Street ทั้งสามภาค ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นแฟนหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมาอย่างยาวนานจนเขาต้องเอ่ยปากยอมรับว่าเป็นแน่แท้ๆ แล้วผลงานงานหลายๆเรื่องของเขานั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากผลงานของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ อาทิเช่นหนังเรื่อง Juvenile
เพราะว่าความแตกต่างระหว่างโดราเอมอนในเรื่อง Stand by Me : Doraemon กับโดราเอมอนในตอนยาวๆ แบบอื่นๆ ที่มักจะออกฉายเป็นประจำทุกๆ ปีนั้นอยู่ตรงที่ครั้งนี้งานด้านภาพจะถูกออกแบบมาเป็น 3D และมีการเขียนพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่
เพราะที่ทางพวกงานหนังออนไลน์โปรดิวเซอร์นั้นก็ต้องเจรจากับทางฟูจิโกะโปร ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอน ทำให้หมู่งานต้องส่งพล็อตเรื่องไปให้พิจารณา แต่ท้ายที่สุดแล้วเหล่างานก็ได้รับไฟเขียวให้กลายเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวได้ทันที
เพราะว่าตัวหนังแล้วจักถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนทั้งสิ้น 7 เล่มประกอบไปด้วย
- ผู้มาจากโลกอนาคต
- ชิซูกะจังในไข่
- ชิซูกะจังลาก่อน
- ความโรแมนติกบนภูเขาหิมะ
- คืนก่อนงานแต่งงานของโนบิตะ
- ลาก่อนโดราเอมอน
- โดราเอมอนกลับมาแล้ว
ซึ่งเป้าหมายแท้ๆ ของการทำหนังเรื่องนี้ก็คือการเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ที่เติบโตมากับโดราเอมอนกลับมาเพื่อเข้าโรงหนังพร้อมทั้งระลึกความหลังไปพร้อมๆ กัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น